BTSดีลพันธมิตรลงทุนเมืองการบิน'อู่ตะเภา'
BTS เดินหน้าเจรจาพันธมิตร ร่วมลงทุนโครงการ “เมืองการบินภาค ตะวันออก” บนพื้นที่กว่า 7 พันไร่ รอบสนามบินอู่ตะเภา เล็งเฟสแรกผุดคาร์โก้ ดิวตี้ฟรี บ้าน คอนโด โรงแรม ห้างสรรพสินค้า มั่นใจสร้างเสร็จภาวะเศรษฐกิจฟื้น ทั่วโลกมีกำลังเดินทางท่องเที่ยว - ขยายฐานลงทุน ย้ำพร้อมหาเงินทุน อัตราดอกเบี้ยเหมาะสม
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ บริษัท บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวว่ากลุ่ม บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA เริ่มเจรจากับพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนในโครงการ “เมืองการบินอู่ตะเภา” บนพื้นที่กว่า 7 พันไร่รอบสนามบินอู่ตะเภา ควบคู่กับการจัดทำแผนผังโครงการ โดยจะแบ่งการลงทุนเป็น 3 เฟส โดย พื้นที่สำหรับคาร์โก และ Free Trade Zone จะมีประมาณ 262 ไร่ หรือ 4.19 แสนตารางเมตร รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัย โรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สามารถเริ่มพัฒนาได้เป็น 2 เฟสแรก มูลค่าโครงการกว่า 2 แสนล้านบาท
เบื้องต้นกลุ่มบริษัทไม่มีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจาก โครงการสนามบิน-เมืองการบินภาคตะวันออก เป็นโครงการขนาดใหญ่ ระยะเวลาการก่อสร้าง 3-5 ปี ซึ่งคาดว่าจะเป็นจังหวะที่ภาวะเศรษฐกิจโลก-เศรษฐกิจในประเทศอยู่ระหว่างการขยายตัวเหมาะสมต่อการลงทุน และเร่งขยายธุรกิจ รวมถึงประชากรโลกก็เริ่มกลับมามีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอยอีกครั้ง
“ตอนนี้ได้เริ่มวางแผนผังโครงการ ควบคู่กับการเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาการก่อสร้าง 3-5 ปี ก็น่าจะ เป็นจังหวะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวคนเริ่มมีกำลังเดินทางท่องเที่ยว ภาคธุรกิจก็เริ่มมีเงินสะสมพร้อมที่จะขยายการลงทุนออกไปในหลายๆ ประเทศ โครงการของกลุ่มบริษัททยอยเสร็จในช่วงเวลานั้นถือว่าเหมาะสมที่สุด”
ย้ำฐานการเงินแกร่ง
สำหรับกลุ่มบริษัท BTS Group ยังคงมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/2564/2565 (เม.ย.-มิ.ย. 64) กลุ่มบริษัทมีอัตรา ส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1.28 เท่า ขณะที่มีโครงการในมือทั้งจากบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือจำนวนมาก ประกอบกับพันธมิตรที่บริษัทมีอยู่ โดยมีความพร้อมจะร่วมมือกันเพื่อทำโครงการขนาดใหญ่ โดยคาดว่าภายในปีนี้แนวทางการลงทุนน่าจะมีความชัดเจน
“ในส่วนของกลุ่มบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ มีความพร้อมที่จะระดมเงินเข้ามาลงทุนทั้งจากการกู้เงิน จากสถาบันการเงิน หรือการออกหุ้นกู้ ได้อีกระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 บริษัทได้ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเพิ่มทุนแบบ มอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 2,600 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทมีความคล่องตัวในการเข้าซื้อกิจการ หรือร่วมทุนกิจการ หรือการเจรจาโครงการต่างๆ”
โบรกส่องพื้นฐาน 13 บ.
ขณะที่ผู้ถือหุ้น BTS อนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทครั้งที่ 6 (BTS-W6) ครั้งที่ 7 (BTS-W7) และครั้งที่ 8 (BTS-W8) รวมจำนวนไม่เกิน 4,608,855,895 หน่วย
อย่างไรก็ดีนายสุรพงษ์ กล่าวว่า หากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิแปลงสภาพทั้งหมดคาดว่าบริษัทจะระดมทุนได้ 6.1 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน และยังมีโครงการลงทุนรถไฟฟ้าในเส้นทางอนาคตที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนมาก เพราะเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเหมาะสม BTS อยู่ที่ 13 บาทต่อหุ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น